บริสเบน (Brisbane) เป็นเมืองหลวงและเมืองที่มีประชากรหนาแน่นที่สุด
ของรัฐควีนแลนด์ประเทศออสเตรเลีย
อีกทั้งเป็นเมืองที่มีขนาดใหญ่อันดับที่ 3
ของประเทศออสเตรเลีย

สวนสาธารณะริมแม่น้ำบริสเบน

มีจำนวนประชากรเกือบ 2 ล้านคน โดยถ้ารวมในตัวเมืองแล้ว
จะมีมากกว่า 2.4 ล้านคน บริสเบนเป็นเมืองที่อยู่ติดกับมหาสมุทรแปซิฟิกและมีแม่น้ำบริสเบน ( Brisbane River) ไหลผ่านบนที่ราบระหว่างมอร์ทันเบย์ (Moreton Bay) กับเทือกเขาเกรตดิไวดิง (Great Dividing Range) ส่วนชื่อเมืองตั้งขึ้นเพื่อเป็นเกียรติแก่
เซอร์โทมัส บริสเบน
(Sir Thomas Brisbane)


มีเรือประจำทางสำหรับผู้คนสัญจรไปมาในเมือง

 

มันเป็นความตื่นเต้นที่หาขีดจำกัดไม่ได้เลยจริง ๆ

THAILAND - BRISBANE

10 พ.ค. 2552 - 27 พ.ค. 2552

1. มีอยู่วันหนึ่ง ฉันมานั่งคิด ๆ ดู
เอ.....นี่เราเกษียณอายุราชการมาได้เจ็ดเดือนกว่าแล้ว
น่าจะได้ไปท่องเที่ยวที่ไหนสักแห่ง ก็คุยกับลูกสาวทางออนเอ็ม
ลูกบอกว่าแม่ควรจะไปบริสเบน ประเทศออสเตรเลีย
ไปในขณะที่ลูกอยู่ที่นั่น เพราะสิ้นเดือนมิถุนายนนี้
วีซ่า Working Holiday ของลูก ก็จะครบกำหนด
ที่ต้องกลับเมืองไทยแล้ว..... เออดี
ก็ตอบไปงั้น ๆ แหละ ไม่ได้คิดว่าจะได้ไปจริง ๆ
ลูกจัดการเรื่องวีซ่าทางอินเทอร์เน็ตให้หมด
เป็นวีซ่าท่องเที่ยวไปได้สามเดือน

มีบ่อนคาสิโนอยู่ใจกลางเมือง

2.แบบว่าไม่เคยเดินทางไปต่างประเทศคนเดียว และด้วยวัย หกสิบเอ็ดกะรัต   ลูกสาวก็จัดการซื้อตั๋วทาง
อินเทอร์เน็ต ให้เป็นสายการบิน EVA ลูกบอกว่าถูกดี ไป - กลับ 29,000 บาท รวมภาษีสนามเรียบร้อย แต่ต้องไปเปลี่ยนเครื่องที่ไต้หวัน
จะมีเวลาเปลี่ยนเครื่อง 1 ชั่วโมง และต้องไปอีกอาคารหนึ่ง
ลูกบอกว่าตอนลูกไปเครื่องบินดีเลย์ที่ไทย ลูกต้องวิ่งๆ ๆ ไปต่อ
เครื่องอีกอาคารเพื่อไปบริสเบน ขึ้นเครื่องเป็นคนสุดท้าย
เกือบไม่ทัน ฉันบอกลูกว่า อยางนี้แม่ชอบ เรื่องวิ่งไม่มีปัญหา
เพราะฟิตเนสทุกวันอยู่แล้ว ไม่ต้องห่วงแม่
จากนั้นการออนเอ็มก็ยุติไป


 

 




รูปปั้นพระนางวิคตอเรียอยู่บริเวณซิตี้

3. วันต่อมา ลูกสาวกลับจากทำงานรีบ ออนเอ็มหาแม่ทันที
บอกว่า แม่การที่แม่วิ่งไม่เหนื่อยลูกไม่เถียง
แต่ถ้าแม่วิ่งไปอีกอาคารที่ไม่ใช่ไปทางประตูบริสเบนล่ะ
ภาษาอังกฤษตอนเรียนกับตอนพูดไม่ใช่เหมือนกัน
เอ......จริงแฮะ ลูกก็บอกว่า เดี๋ยวลูกจะขอเปลี่ยนเป็น
สายการบินไทยดีกว่า แพงขึ้นมาอีกสองพัน
แต่ไม่ต้องเปลี่ยนเครื่อง จะแวะพักเครื่องที่ ซิดนีย์ 1 ชั่วโมง
ตกลงนะแม่ ลูกจะได้หายห่วง O.K

ลงเรือไปไชน่าทาวน์ ขอชาวออสซี่ที่นั่งในเรือถ่ายรูปให้

4. อีกสามวันก็จะเดินทาง ลูกถามว่าเตรียมกระเป๋าพร้อมยัง
แม่ตอบยังค่ะ เพราะไม่ว่าง งานทำหลังเกษียณเยอะมาก
แต่แม่ก็จะเอาโน้ตบุ๊คไปด้วย ตอนลูกไปทำงาน แม่ก็ทำงาน
ของแม่ไป ลูกก็กลัวแม่จะเหวอ เพราะเดินทางคนเดียว
ลูกก็สร้างความมั่นใจโดยการส่งอีเมล์มาเป็นข้อ ๆ
เริ่มตั้งแต่ไปถึงสนามบินสุวรรณภูมิ จะต้องไปดูป้ายที่เลื่อนๆ
เป็นสี ๆ ว่าต้องไปเคาน์เตอร์ไหน เปิดหรือยัง ฯลฯ
รวมแล้ว 35 ข้อ พร้อมกับสแกนตัวอย่างการกรอกใบผ่าน ต.ม
. มาให้แม่ซ้อมกรอกก่อน เราก็คิดเออมั่นใจ
คืนก่อนเดินทางก็เอามาอ่าน แล้วก็วางไว้ที่โต๊ะคอม ฯ
ลืมเก็บไปด้วยค่ะ ถึงเวลาจริง ๆ เอ๋อ เหวอ และก็เซ่อ โดยเฉพาะอย่างยิ่งใบที่แจกบนเครื่องบิน สำหรับผ่าน
ต.ม.บริสเบน ลืมหมดตรงที่ลูกบอกว่าให้ขอใบที่มีภาษาไทย

ในเรือมีไทยแลนด์อยู่สองคน นอกนั้นออสซี่หมด

5. แล้วเราก็กรอกใบผ่าน ต.ม. บนเครื่องบิน
ไม่ลืมเปิดไฟด้วยความคล่อง (แอบดูแหม่มที่นั่งข้าง ๆ ทำ)
แกก็ชอบซักถามเรา ไปบริสเบนกี่วัน ฉันอยู่โกลด์โคสท์ ฯลฯ
เราก็ตอบไปถูกไม่ถูกไม่รู้ แกพูดอะไรมา เราก็อึฮื้อ อะฮ้า
ไปตามเรื่อง นึกในใจ เมื่อไรจะถึงซักทีวุ้ย ตอนหลังแกคงเห็นว่า
แกถามอย่างเราตอบอย่าง และทีตอบนั่นคงเป็นภาษาใหม่
ในที่สุดแกก็เงียบไปเปิดทีวีดูหนังไป พอเรากรอกเสร็จ
ก็เก็บไว้ในพาสปอร์ต (ตามคำสั่งลูก)
สักครู่ได้ยินสามีแกพูดอะไรไม่รู้ ภรรยาก็หันมาทางเรา
แล้วพูดอีก จับคำได้ว่า Card
ด้วยความเป็นครูสอนวิชาภาษาไทย เรารีบหยิบใบผ่าน ต.ม.
ให้แกด้วยความภาคภูมิใจที่มีฝรั่งมาขอลอกใบผ่านทางเรา
(คิดเอง) แล้วก็ยื่นให้ในท่าที่เต๊ะนิด ๆ แล้วแกก็พลิกด้านหลัง
บอกเราว่าyou ลืมเขียนด้านหลังง่ะ   เหวอตายแล้ว
ที่ลูกปฐมนิเทศไว้ก็ไม่ได้เอามา ในที่สุดเราก็ขอยืมมันมาลอก
อิอิ ชีวิตรันทด

 


ค่าผ่านประตูเข้าไปในสวนสัตว์

6. กัปตันประกาศขณะนี้เราพาท่านมาถึงซิดนีย์แล้ว (ฟังรู้เรื่อง) เพราะเป็นสายการบินไทย เราก็หิ้วโน้ตบุ๊คมีกระเป๋าสะพาย แล้วก็สวยเริดเชิดหยิ่งผ่านแอร์โฮสเตส สจ๊วตไป
เดินไปทางงวงช้าง เหวอ....หา.... เป็นฝาหรั่งหมด มันพูดอะไร แล้วเราจะไปไหน ลูกจ๋าหน้าแม่แหตาก็แห ทำไงดี
รีบกลับไปหาแอร์โฮสเตส ว่าไปไหนต่อ
แอร์บอกให้เรามั่นใจว่า
"ต้องถามฝ่ายซิดนีย์เขาค่ะ" ฮือๆ ๆี  ลายแทง 35 ข้อ
ก็ไม่ได้เอามา  ก็พอดีเจอสาวไทยยืนกับเจ้าหน้าที่ฝาหรั่ง
เจ้าหน้าที่หันมาถามเราว่า ปรื้อปรื่อปรื้อปรื๊ดๆ
เราก็ yes(ใช่หรือเปล่าไม่รู้) แล้วถามสาวไทยที่ยืนด้วยกัน
เขาพูดว่าอะไร ด้วยความหวังในคำตอบ สาวไทยตอบว่า
ฟังไม่รู้เรื่องค่ะ พูดภาษาอังกฤษไม่เป็น
พอดีเจ้าหน้าที่ก็เดิน เราก็เริ่มเดินด้วยอาการขาสั่น
ผ่านการสแกนกระเป๋า เราจำคำลูกสอนได้ว่า
แม่้ต้อง ทำหน้าให้เรียบเฉยที่สุด.......   เหงื่อจ๊ะลูก
เหงื่อมันแตกทั้ง ๆ ที่อากาศไม่ร้อน แล้วก็เดินตามเขาไป


Kangaroo

7.ผ่านการตรวจหลายด่านมาก ๆ ตอนนั้นสี่ทุ่มกว่า
ไฟสว่างไสวตามทางเดิน
รวมทั้งกล้องวงจรปิดที่เราไม่สามารถเห็นได้ว่า
ใบหน้าของเราไร้ซึ่งความเฉยเมยตามลูกสั่ง มันกระตือรือร้น

ผิดปกติ     เราได้เดินผ่านการตรวจพิรุธอะไรบ้าง (ซึ่งเราไม่รู้) พอพ้นไปได้สัก 10 ก้าว วิญญาณครูก็เข้าสิง
ด้วยความเ็ป็นห่วงสาวไทยว่าหายไปไหน มาถึงหรือยัง
ก็หยุดยืนหันหน้าหันหลัง จดๆจ้องๆ เขม้นมองหา หันไปหันมา
(ลักษณะแบบนี้แหละีพิรุธ)    พอไม่เจอก็เดินต่อไป พวกที่เราเดินตามมาหายไปหมดแล้ว  ก็พอดีตรงแยกก็มีเจ้าหน้าที่
ไม่ใช่คนไทยแล้ว this way ปรื่อปรื๊อๆ ๆ ๆ
แล้วก็ผายมือไปอีกทาง this way บริสเบน เย้ เดินเชิดไปเลย เดินๆๆ เมื่อถึงทางที่จะขึ้นบันไดเลื่อน ก็มีอาคันตุกะ สองคนหญิงคนชายคน หน้าตาเหี้ยมเกรียม บอกเราว่า ปรื่อปรื๊อๆๆๆ ปรี๊ด จับความตอนท้ายว่ามาจากไหน

8. ตอบด้วยความภาคภูมิใจว่า THAI LAND
แกก็เอากระดาษภาษาไทยให้อ่าน
หา......เหวอ......ท่านถูกสุ่มตรวจจับวัตถุระเบิด ตาก็มองหาเพื่อน
ไม่มี ไม่มีใครสักคน และแล้วมันก็ให้ยืนตรงรูปเท้า ให้กางแขน
หันหลง หันหน้า ดีนะที่ไม่ให้ขึ้นขาหยั่งตรวจภายใน เปิดกระเป๋า
กระเป๋าโน้ตบุ๊ค ประมาณ 10 นทีที่ตกนรก แล้วมันก็ปล่อยไป
ชี้ให้ขึ้นทางบันไดเลื่อน พอถึงชั้นบนก็เจอสาวไทย มองหาเห็นอยู่ในห้องนั้นแว้ป ๆ (เรื่องอะไรฉันจะบอกเธอ)
ฉันไปหาประสบการณ์ย่ะ สาวไทยก็ถามเราว่าจะไปทางไหนต่อ
อ๋อ ที่แกคอยฉันเพราะหวังพึ่งพา โธ่เอ๊ย แล้วเราจะรู้มั้ยเนี่ย
ก็แข็งใจเดินต่อไป ก็เจอคนนั่งเยอะแยะ แต่ไม่ใช่คนไทย และแล้วเหมือนพระเจ้าช่วยกล้วยทอด มีนักเรียนไทยอายประมาณ ยี่สิบกว่า เดินมาหา แกก็คงห่วง ในความเป็นวัยรุ่นของเรา น้า ๆ จะไปบริสเบนใช่ไหม ใช่
ไปรอประตูไหน ประตู 59 นี้ละครับ โอ้ ชีวิต ขอบคุณมาก
เดี๋ยวขอโทรหาลูกสาวก่อน แกรออยู่ที่สนามบิน่บริสเบน
จากนั้นก็กดโทรศัพท์ กดยังไงก็ใช้ไม่ได้ ถามนักเรียนไทย แกบอกว่า AIS ถ้าไม่ได้ขอใช้ที่ต่างประเทศจะโทรไม่ได้ เอาของผมโทรก็ได้ครับ เดี๋ยวขอเปลี่ยนซิมก่อน ก็ติดต่อลูกได้
(นี่แหละน้ำใจคนไทยที่แท้จริง)

 

9.จากนั้นก็มีการประกาศ ปรื่อปรื๊อๆๆๆ เราไม่ใช้สมอง
ให้เสียพลังงานแล้ว เดินตามติดนักเรียนไทยไปเล้ย ในที่สุดก็ได้นั่งสายการบินไทยไปสู่บริสเบนโดยสวัสดิภาพ
โดยนั่งที่นั่งเดิม    อ้าว ออสซี่คนเดิมก็ยังนั่งอยู่เหรอ เป็นอันว่าที่เราแปลในใจมาตลอดทางว่า แกลงซิดนีย์ก็ไม่ใช่เสียแล้ว สงสารสมองอีกแล้ว ที่ต้อง
แปลผิด ๆ ให้เจ้าของสมอง พอถึงแอร์พอร์ต ก็ผ่าน ต.ม.
อีก คำสั่งของลูกแว้บเข้ามาในหัว แม่ต้องเอาใบผ่าน ต.ม.เก็บเข้าไว้ในพาสปอร์ตให้ดีๆ แล้วถ้าเขาถามอะไรก็ตอบๆ ไป อันนี้ ได้บอกลูกว่า แม่ไม่ตอบ แม่ไม่ฟัง ลูกก็บอกว่าไม่มีอะไรหรอก ส่วนใหญ่เขาก็จะบอกว่าขอให้ท่องเที่ยวอย่างมีความสุข ประมาณนั้น แล้วลูกก็ส่งอีเมล์มาเป็นภาษาอังกฤษ ถ้าเขาพูดแบบนี้แม่ก็ตอบแบบนี้ ฯลฯ ทั้งหมดนี้อยู่ในลายแทงที่ลืมเอามาทั้งสิ้น เอาละใจดีสู้เสือ
ลูกสาวเรารออยู่ข้างนอกแล้ว


ม้า

10.หลังจากรับกระเป๋าเสร็จ ผ่าน ต.ม. แหมเขาพูดคำเดียวว่า
Thank Yoy อุตส่าห์ ยืนขาสั่นสู้อยู่ตั้งนาน จากนั้นก็ถึง ทางเดินออกไป เขามีที่กั้นให้เดินเรียงเดี่ยวไป เพื่อจะสแกนกระเป๋าเป็นครั้งสุดท้าย เราก็ภาคภูมิใจมากที่ผ่าน ต.ม. โดยสวัสดิภาพ
เข็นรถไป เพื่อที่จะได้เข้าตามเส้นทางเรียงเดี่ยว
อ้าว !! อะไรอีกล่ะ เขา กั้นเราไว้ แยกออกมา ต่างหาก ปรื่อปรื๊อๆๆๆ
เหวอ......พยายามฟังให้รู้เรื่องที่สุด ไม่เข้าใจ ไม่เข้าใจเสียเลย
มีแต่ความตกใจมาแทนที ทำไมจึงต้องเป็นเราอีก
นี่ถ้าไม่ติดว่าอายุหกสิบเอ็ด จะนั่งร้องไห้ซะเลย
จากนั้นเขาคงเห็นเราไม่รู้เรื่องจริง ๆ เขา ก็หยิบcard สีเขียวให้ดู
เราก็ Oh Yes I see ไม่รู้คำนี้มันอกมาได้ไง สงสัยปู่ของปู่ของปู่ของปู่ เป็นคนออสซี่มั้ง แล้วก็ค้นในกระเป๋า นำสายตาอันกังวลไปซ่อนไว้อย่างมิดชิด ไม่ให้มันเ็ห็น ว่าเรากำลัง คิดว่า card หายไปไหน Oh My God เจอแล้ว (ด้วยความสามารถของเราเอง) มันหล่นออกจากพาสปอร์ต ตอนที่เราดีใจว่าผ่าน ต.ม.แล้ว รีบยื่นให้แหม่มเจ้าหน้าท
ี่ แก ก็ผายมือให้ไปตามเส้นทางเดินของมนุษย์ จากนั้นก็ได้พบลูกสาว โอ้ลูก 8 ชั่วโมง
ที่ผ่านมานี้แม่เหมือน ตอนสอบเข้าเรียนชั้น ม.1 พ.ค.ยังไงยังงั้นเลย   รถเข็นกระเป๋าเหรอ แม่ผลักทิ้งไปตั้งแต่เห็นหน้าลูกแล้ว เย้ๆๆๆ วูฮู้


โคอาลา (Koala) เป็นสัตว์ในกลุ่มสัตว์จำพวกจิงโจ้
(มิใช่หมี)

ตัวเมียจะมีกระเป๋าหน้าท้อง สำหรับให้ลูกอ่อนอาศัยอยู่
หมู Guinea Pigs        
           ต่อไปพาเที่ยวทะเลเมืองโกลด์โคสท