อยากให้เป็นเช่นวันวาน
ตอนที่ 5
ครั้งแรกในชีวิต
|
ปี 2519 ฉันจบปริญญาตรี ไปสอบบรรจุเอกวิชาภาษาไทย
ฉันสอบบรรจุได้ที่ 1 ได้ยินมั้ยฉันสอบบรรจุได้ที่ 1 ภาคภูมิใจมาก
อย่าถามว่ามีคนสมัครกี่คน ไม่อยากพูด เอ้อ.....มีคนสมัครสอบ 1 คนง่ะ
ฉันได้บรรจุที่โรงเรียนแม่ใจวิทยาคม
ต่อมาอำเภอพะเยาได้ตั้งเป็นจังหวัด ในวันที่ 20 สิงหาคม 2520
ทางจังหวัด
ก็สืบหาครูที่มีภูมิลำเนาอยู่อำเภอเมือง
ให้ไปช่วยราชการที่สำนักงานศึกษาธิการจังหวัด
ฉันทำอยู่่ั่นั่น 7 ปี พอปี 2527 ฉันก็ขอไปสอนหนังสือ
ฉันได้ไปสอนที่โรงเรียนพะเยาพิทยาคม ทำผลงานทางวิชาการจนได้ซี 8
ในปี 2536 คนแรกของโรงเรียนมัธยมจังหวัดพะเยา
ไม่ได้แก้ไขเลย (ผ่าน) อิอิ
|
หลังเลิกสอนตอนเย็น วันหยุดเสาร์ อาทิตย์
ก็เป็นเลขานุการพี่ตุ๊
(คุณเพ็ญศิริ เพชรดี) นักธุรกิจค้าที่ดิน
ลูกศิษย์หลวงพ่อไพบูลย์วัดอนาลโย พะเยา
ฉันมีหน้าที่จัดทำแผนผัง
แผนที่ เกี่ยวกับที่ดินที่จะขาย ในบรรดาที่ดินหลายผืนก็มี
“พะเยาลากูน” ซึ่งผู้ที่มาซื้อก็คือ “ม่อม”
ศิษย์เก่าวิทยาลัยครูเชียงใหม่ รุ่น 2510 นั่นเอง
พอเสร็จสิ้นกระบวนการโอนเรียบร้อย พี่ตุ๊ก็บอกว่า
จะพาไปเที่ยวอินเดีย คุณหญิงวัชรี ว่องไพฑูรย์
ลูกศิษย์หลวงพ่อวัดอนาลโย
จะนิมนต์์หลวงพ่อไปสังเวชนียสถาน 4 ตำบล
ที่อินเดีย ฉันตื่นเต้นมากได้ไปอินเดีย
โอ้..ก็..ฉันไม่ได้นั่งรถเมล์เขียวไปอินเดียนี่นา
|
ลูกศิษย์หลวงพ่อไพบูลย์ วัดอนาลโย
บนดอยบุษราคัม พะเยา |
|
นั่งเรือบิน บิ๊น บิน
ฉันจะได้นั่งเรือบินเป็นครั้งแรกในชีวิตของฉัน
ดังนั้นวันที่ 10 มีนาคม 2533 ก้าวเท้าเหยียบการบินไทย
ตื่นเต้นมาก นั่งประมาณชั่วโมงกว่า ๆ
นี่แหละ ถึงสนามบินกัลกัตตา
จากนั้นก็บินภายในประเทศ เครื่องเล็กมากเครื่องโคลงเคลงๆ
ฉันมีหน้าที่หอบหิ้วถุงพลาสติกรูปร่างยาวประมาณฟุตครึ่ง
ในนั้นเป็นกล่องอาหารเพลสำหรับหลวงพ่อ
แล้วยังถุงธูปเทียนกระถางดอกไม้ประดิษฐ์
สำหรับบูชาสถานที่สำคัญทั้ง 4 ตำบล
หิ้วของหนักมากถึงมากที่สุด
แต่ฉันก็เต็มใจหิ้วตัวเอียงขึ้นเรือบิน
ดู ๆ แล้วฉันจะวานใครช่วยหิ้วไม่ได้เลยเพราะ 1.ไปฟรีกินฟรี
2. คุณแม่ชีบัวคำ(คุณแม่พี่ตุ๊) 3. คุณหญิง หม่อมหลวง เศรษฐี
นักธุรกิจร่ำรวย คุณทนุพรรณ เจตน์ภักดี อาสาจะช่วยถือให้
ฉันบอกไม่ต้องหรอกดูแลน้องนาย(ภรรยา) ปวดหัวข้างเดียว
น่าสงสารมาก
4.ได้ไปสังเวชนียสถาน พอถึงเมือง “อีนี่จ๋านจำไม่ได้”
เข้าพักโรงแรมหรู
|
จากนั้นก็ไปเมือง
กุสินารา สถานที่ปรินิพพาน เมืองลุมพินี
ประเทศเนปาล อะฮ้าได้ไปเมืองนอกอีกประเทศนึงและ
สถานที่ประสูติ เมืองสารนาถ สถานที่ปฐมเทศนา
พุทธคยา สถานที่ตรัสรู้
อาหารหลวงพ่อในถุงยาวสีน้ำเงินสดใสนั้นค่อย ๆ พร่องลงไป
เบาลงไป ๆ ในที่สุดก็เหลือแต่ธูป
ใส่ถุงกระดาษสีน้ำตาลมีตัวหนังสือโชคดีที่หน้าถุง
ไปถึงแต่ละแห่งแม่ชีบัวคำ ก็จะจุดธูปนำสวดมนต์ นั่งสมาธิ
เมื่อไปถึงเมืองสารนาถ สถานที่ปฐมเทศนา
คณะของเราไทยแลนด์ก็จุดธูปกันตามปกติ คนละ 3 ดอก
ประมาณ 15 คน (ธูปหมดถุงที่ฉันหิ้วแล้วดีใจสุดๆ )
|
|
|
ควันธูปก็พวยพุ่งขึ้นไปอย่างสวยงาม ทันใดนั้นผึ้งฝูงใหญ่
ตัวใหญ่ประมาณเล็กกว่าหัวแม่มือนิดนึง
บินลงมาจากสถูปเจดีย์ไล่ต่อยทุก ๆคน หลวงพ่อไพบูลย์ คุณหญิง
คุณชายทั้งหลาย ต่างวิ่งหนีเอาตัวรอดกันหมด ฉันวิ่งๆๆๆ
อย่างไม่คิดชีวิต นึกขึ้นได้รีบเอาถุงโชคดีคลุมหัวไว้ทั้ง ๆ
ที่กำลังวิ่ง (อัจฉริยะอะไรเช่นนี้) ฉันไม่รู้ว่าวิ่งไปทางไหน
ฉันได้ยินเสียงแขกหลายๆ คน ตะโกนมาที่ฉัน พร้อมกับทำมือให้นั่งลงๆ
คือถ้านั่งลงแล้วผึ้งมันก็บินผ่ายเลยไปไงล่ะ
ฉันรีบนั่งลงเหมือนจะรู้ภาษาฮินดี เอ๊ะ
นั่งลงแล้วทำไมมันมาต่อยที่หัวฉันอีก ปุ๋ง ๆ ขลุก ๆ
รีบถอดถุงกระดาษโชคดีออกจากหัว โอ๊ะแม่เจ้า ผึ้ง 3 ตัว
อยู่ในถุงมันคงมาตอนหิ้วถุงวิ่งนะแหละเพราะในถุงยังมีกลิ่นธูปอยู่
ฉันรีบปาถุงกระดาษทิ้งไป
ไม่สนแล้วว่าฉันเป็นวิทยากรฝึกมารยาทไทยของสำนักวัฒนธรรมแห่งชาติ
|
วิ่ง ๆ ต่อไปอีกเล็กน้อย นางเอกก็หยุดมองไปรอบๆ ตัวเราหายไปไหนหมดไทยแลนด์ แล้วนี่ใครกันมากมายสีดำพรึบหมดเลยเสียงจ๊อกแจ๊กจอแจ
ดูอีกทีเป็นชุดนักศึกษาดูเหมือนจะเป็นวิทยาลัยอาชีวศึกษา
นางเอกตกอยู่ในวงล้อมของผู้ชายวัยรุ่นดำ ๆ (ใจดีสู้แขก)
นักศึกษาก็ให้ฉันนั่งลงมีคนนึงก็เอายาทาที่หัวให้ฉันทาแก้มฉัน
ทั้งๆ ที่ผึ้งไม่ได้ต่อยที่แก้ม เราพูดภาษากันไม่รู้เรื่อง
ได้แต่ทำหน้านางเอกเจ็บหัวปูด พอฉันจะกลับ
(หาทางกลับไปที่สถูปเจดีย์ หาง่าย) กำลังจะลุกขึ้น 1 ในกลุ่ม
ยื่นหน้ามา หอมแก้มนางเอก 1 ฟอด แล้ววิ่งหนีไป
ด่าก็ด่าไม่เป็นก็เลยทำทานให้มันไป
นึกในใจทำไมหอมแค่ฟอดเดียว) อิอิ
|
ธรรมจักรศิลาแทนการแสดงธรรมครั้งแรกคือ
ธรรมจักรกัปปวัตนสูตรย์ทั้งห้า
|
|
|