อยากให้เป็นเช่นวันวาน
ตอนที่ 10 แรงงานพม่ากลับชาติมาเกิดที่บลูเมาท์เท




    เสียงโทรศัพท์มือถือดังขึ้น “ดวงพร เมื่อไหร่จะไปแอ่วหาลูกสาวที่ซิดนีย์ ไปเน้อไปพักที่บ้านเราซื้อแค่ตั๋วเครื่องบินไป – กลับเท่านั้น ไม่ต้องเอาเสื้อผ้าไป เอาแค่กางเกงในกับเสื้อในไปก็พอ นอกนั้นเรามีหมด หน้าหนาวเสื้อผ้ากันหนาวทั้งนั้น  นอนบ้านเรากินฟรี อยู่ฟรี ไปอยู่ซักเดือนนึง
 นะนะ
อีกอย่างเดือนมิถุนายน 2555 เขามีเทศกาล Winter Magic Festival  มีขบวนพาเหรดที่ยิ่งใหญ่มาก” น้อย  มัชมนหรือ สุพิน โทรมาจากบลูเมาท์เท่นซิดนีย์  (โอ้....ทำยังกะเดินทางจากเสนานิเวศน์ไปหมอชิต ยังงั้นแหละ)  ฉันก็ลองโทรหาอิ๊ด ชวนอิ๊ดไปด้วย อิ๊ดตอบตกลงทันที  ทำยังกะชวนไปดูหนังที่เมเจอร์รัชโยธินแหละ“ป๊ะวันจันทร์
เฮาไปทำวีซ่า ดวงพรบอกมาจะเอาหลักฐานอะไรบ้าง ไปทำที่ไหน ปกติไปอเมริกาลูกจะทำให้หมด

     
วันนี้ วันพฤหัส เอางัยวะ งงงง   นึกถึงอากู๋ (Google) ได้เรื่องเรียบร้อย  สำนักงานเพื่อการยื่นขอวีซ่าออสเตรเลีย (VFS) ตั้งอยู่ที่ตึกไทยซี ซี ทาวเวอร์  ชั้น 34 ถนนสาทรใต้  ส่วนหลักฐานลูกสาว (เชอร์รี่)โทรมาพอดี ลูกสาวก็ส่งอีเมล์มาให้ว่าเตรียมหลักฐานดังนี้  
          1. แบบฟอร์มยื่นขอวีซ่าท่องเที่ยว ลูกดาวโหลดมา 2 ชุด ชุดแรกว่างเปล่าสำหรับลายมือแม่
ชุดที่ 2  กรอกตัวอย่างมาให้ลอกเรียบร้อย  เป็นภาษาอังกฤษ
          2.  สำเนาหนังสือเดินทาง (Passport) 1 ชุด หน้าที่มีรูปและข้อมูลผู้สมัคร ที่มีอายุครอบคลุมระยะเวลาทั้งหมดที่จะอยู่ในประเทศออสเตรเลีย หรือมีอายุเหลือเกิน 6 เดือน
          3.  สำเนาหนังสือเดินทาง  (Passport) 1 ชุด หน้าที่มีรูปและข้อมูลผู้สมัคร ที่มีอายุครอบคลุมระยะเวลาทั้งหมดที่จะอยู่ในประเทศออสเตรเลีย หรือมีอายุเหลือเกิน 6 เดือน
         4.  รูปถ่ายสี ขนาด 4.5ซ.ม.x3.5ซ.ม. 1 รูป (ถ่ายไม่เกิน 6 เดือน) พื้นหลังเป็นสีฟ้าหรือสีอ่อนหรือขาว รวมทั้งให้เขียนชื่อแม่ไว้ด้านหลังของรูป
        5.  สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน  
        6.  สำเนาทะเบียนบ้าน และอื่นๆที่แสดงความผูกพันของท่านในประเทศถิ่นที่อยู่อาศัย
    อิ๊ดโทรมาบอกว่า เขียนเสร็จส่งไปให้ลอกด้วย อ๊ะ ๆ ลอกการบ้านเหมือนตอนเรียนเลย ยังหนีไม่พ้น
ถามพ่อเชอร์รี่ “ไปมั้ย”  “ไปไหน”  “อีก 3 เดือนไปซิดนีย์”  “คิดดูก่อน”  “ตามใจ”  จากนั้นก็นัดอิ๊ดไปเจอกันที่ตึกไทยซี ซี ทาวเวอร์   “ไปมั้ย”  “ไปไหน” ไปทำวีซ่า” “คิดดูก่อน” “ตามใจ” ฉันก็นั่งแท็กซี่จากเสนานิคม
ไปขึ้นรถไฟฟ้าไปลงที่สถานีสุรศักดิ์  นัดพบอิ๊ด  ขึ้นไปชั้น 34 ตรวจสอบเอกสารเสร็จเรียบร้อย ให้ส่งทางไปรษณีย์
 เจ้าหน้าที่บอกว่า  5 วันทำการ ก็จะได้รับเอกสารต่าง ๆ เอ....เราจะผ่านไหมหนอ  เงินโชว์บัญชีมี  6 หมื่น อิ๊ดเขารวย สามีเป็นเจ้าของโรงสีแปดริ้ว ลูกชายทำงานสถานทูตอเมริกา  ลูกชายอีกคนทำธุรกิจให้เช่าเครื่องบิน
เวลาผ่านไป 5 วัน ปี๊น ๆ  ไปรษณีย์มาละรีบแกะดู  ลูกสาวเคยบอกว่าให้ดูเล่ม Passport  ถ้ามีกระดาษขาว ๆ แผ่นเล็ก ๆ แลบออกมาแสดงว่าวีซ่าผ่านฉันรีบแกะซองแบบไม่ทะนุถนอมซอง
เย้ๆ ๆ ๆ มีกระดาษสีขาว อ่านดูท่านสามารถอยู่ในออสเตรเลีย
ได้ 3เดือน  ไปได้ครั้งเดียว ออกมาก็ต้องทำวีซ่าใหม่  (โหย....ใครจะเข้าออกเป็นว่าเล่นเล้า) โทรหาอิ๊ด ๆ ก็ได้รับเช่นกัน อิ๊ดบอกว่า  อยู่ได้ 1 ปี ไปกลับ  ไปกลับ กี่ครั้งก็ได้  ต่างก็ดีใจจะได้ไปเจอน้อยมัชมน

        จากนั้นเรา 3 คน ดวงพร  อิ๊ด  มัชมน (น้อย) ก็โทรหากันตลอด
ส่วนใหญ่น้อยโทรมา เพราะค่าโทรถูกกว่า ตอนนั้นยังไม่ได้ใช้ Line
ฉันตื่นเต้นมาก อีก 15 วันเท่านั้นก็จะได้เจอกันแล้ว 
"เออ...แล้ววีซ่าทำยังไง ทำไมได้เร็วจัง  ทำมั่งนะ” เสียงดังออกมาจาก สวนหย่อมหน้าบ้าน
"หา ...อีก 10 วันจะเดินทางกันแล้ว “ทำไมอยากไปขึ้นมาทันทีทันใดยังงี้ล่ะ”
“ก็คิดถึงลูกสาวง่ะ เตรียมอะไรมั่ง”  (โอย....จะเป็นลม) 
ฉันรีบเตรียมเอกสารหลักฐานให้ พร้อมกับ
One  by  One  เขียนตามคำบอกทุกตัวอักษร ยกเว้นชื่อ นามสกุล  ตรวจเช็คเรียบร้อย ครบ

                            
รุ่งขึ้น
“ไปส่งหน่อย”  “No” (แค้นนี้ต้องชำระ) “ไปเองเลย”
แต่ก็อดใจอ่อนไม่ได้ (ตามใจซะจนลืมแค้น)
ไปถึงยื่นเอกสาร ปรากฏว่าเงินทั่นกดมาไม่พอ มาขอยืมเรา "NO"
อย่ามาแผนสูง ชอบยืมหาย ๆ ก็บอกให้ไปกดมาเอง
ลงลิฟท์ที่เดิมนะ “รู้แล้ว”  หายไปนานมาก ซักพักใหญ่ ๆ หน้าหงิกเข้ามา  “บ้าที่สุด” จะพูดดังก็ไม่ได้เขาไม่ให้พูดดัง
“ลงลิฟท์ผิด  มันจะไปลงโซนไหนก็ไม่รู้ หาตู้เอทีเอ็มไม่เจอ
ต้องขึ้นมาที่เดิม (ชั้น 34 ) แล้วลงไปใหม่  (อิอิ ยากที่จะบรรยาย)
ในที่สุดก็ยื่นไปเรียบร้อย  ตอนยื่นต้องเข้าไปเอง ฉันนั่งรอ ได้ยินบอกเจ้าหน้าที่ว่า “ผมจะมารับเอง”  ดีละฉันไม่มาส่งหรอก
 อีก 5 วันจะเดินทางละต้องเตรียมซื้อของให้น้อยมัชมน
ที่มัชมนสั่ง  ถึงวันครบกำหนดไปรับวีซ่า พวกไม่อยากไปกลัววีซ่าไม่ผ่าน จะรับไม่ได้ เพราะเคยทำวีซ่าไปอเมริกาน้องสาว (คุณมณฑิรา ยอดปัญญา) ไปส่งทำวีซ่าจังหวะที่แกกลับมาเมืองไทย แล้วจะพาแม่กับพี่ชายไปเที่ยวอเมริกาด้วย  ความที่เชื่อมั่นในตนเองสูงของคุณมณฑล ยอดปัญญา   ทั่นคิดเองอย่างมั่นใจว่า ถ้าเราแนบหนี้สหกรณ์ครูเข้าไป  สถานทูตจะต้องให้ผ่านแน่ๆ  เพราะจะต้องมาใช้หนี้ ไม่หนีไปไหน (ตอนนั้นฉันยังไม่เกษียณอายุราชการ ยังอยู่พะเยา)  แล้ววีซ่าไปอเมริกาของคุณมณฑล ก็ไม่ผ่าน ของคุณจรรยา ยอดปัญญาผ่าน เพราะเงินโชว์บัญชีมีมาก  ดังนั้น สาเหตุที่ตัดสินใจทำวีซ่าไปออสเตรเลียช้าก็เพราะ
กลัวประวัติศาสตร์จะซ้ำรอยนั่นเอง

จากนั้นก็ออกบ้านบ่ายโมง
“ถ้าไม่ผ่านทำงัย” “ก็ไม่ได้ไป”  บ่าย 3 โทรมา “โหล ๆ ดวงพรๆ”  เสียงค่อนข้างตกใจ (ตรงหน้าลิฟท์)  “ทำไมคนอื่นได้
ซองเล็ก ของเปิ้นได้ซองใหญ่คนเดียว  บ่ผ่านเหียละก๊า”  “บ่กล้าเปิด กลัวเหมือนไปอเมริกา เหงื่อเปิ้นแตกหม้ดละนิ” 
“เอาละ ๆ ลงลิฟท์ก่อนป๊ะ  ไปหาที่สั่ง ทำใจให้สบาย ๆ”  สักพัก โทรมาเสียงเบาลงหน่อย “ตอนนี้ได้ที่นั่งละ”
“เออ  เปิดซองละยัง”  “ยัง กึ๊ดยาก”  ฮี่ธ่อ  ทำยังกะจะเข้าสอบไล่งั้นแหละ “เอางี้นะ แกะซองออก อย่างอื่นไม่ต้องดู อย่าเพิ่งสนใจ
ค่อย ๆ ล้วงงเอา PASSPORT ออกมา ถ้ามีกระดาษสีขาวเสียบอยู่ นั่นละวีซ่าผ่านแล้ว โอเค้”  วางสาย
หายเงียบไปสัก 10 นาที คงนั่งสวดมนต์ภาวนาอยู่มั้ง
“เออ...มีกระดาษสีขาว”  “อ่านเฉพ
อ่านเฉพาะที่เขาเช็คเครื่องหมายถูก ซิ มีมั้ย”
“ถูกแรก  Tourist”  “วีซ่าท่องเที่ยว” 
“ถูกที่สอง MULTIPLE ENTRIES”
"ภายใน 1 ปี ไปกลับ ไปกลับได้ครั้งละ 3 เดือน
มัชมนโทรมาบอกว่า  พี่มณฑลไม่ต้องเอาเสื้อผ้าไปเยอะเน้อหนักเป๋า ที่โน่นมีหมด  (เชื่อซะที่ไหน เอาเสื้อโค้ต 2 ตัว
เอาสูทไป 4 ตัว ไม่รู้จะเอาสูทใส่ไปเปิดงานอะไร)   ดังนั้นวันที่18 มิถุนายน 2555
เราก็เดินทางไปซิดนีย์กัน 2 คู่ชู้ชื่น