นั่งหน้าคอมพิวเตอร์ นาน ๆ |
|
อาการปวดศีรษะ มักเกิดได้จากหลายสาเหตุ |
|
1. สังเกตท่าทางในการนั่งก่อนเลย ว่าคอยื่นไปจนหน้าเกือบจะชิดจอคอมพ์อยู่เกือบตลอดเวลาหรือไม่ ถ้าเป็นเช่นนั้น ให้แก้ไขก่อน โดยหมั่นสังเกตว่าเริ่มเกิดอาการตึงคอเมื่อไหร่ให้ เก็บคางไว้ อย่าให้หน้าเชิดมากนัก ถ้าเริ่มจะบังคับไม่ไหวมีมึนหัว ตึงต้นคอ ก็ควรพัก สัก5-10 นาที ในระหว่างพักก็ให้ออกกำลังคอเบา ๆ หันซ้าย ขวา เอียง ซ้าย ขวา หมุนไปมาและก้มเงย ในขณะทำก็อย่าลืมเก็บคางไว้อย่าเชิดมาก ทำให้ช้าที่สุดเท่าที่จะทำได้ ข้างละ 5-10 ครั้ง (ตามอาการ) อย่ารีบยืดกล้ามเนื้อคอทันที หลังนั่งหน้าคอมพ์นาน ๆ อาจทำให้บาดเจ็บได้ หลังออกกำลังเสร็จ ก็ค่อย ๆ ยืดกล้ามเนื้อ คอ บ่า ไหล่ โดยทำท่าเหมือนที่ออกกำลังไปก่อนหน้านี้ แต่ให้คงการเคลื่อนไหวไว้ในท่าที่ทำประมาณ 5-7 วินาที (ตามแต่อาการตึงมากหรือน้อย) เช่น เอียงศรีษะไปด้านซ้าย ค้างไว้ จะทำให้กล้ามเนื้อคอด้านขวายืด |
|
แต่การยืดกล้ามเนื้อมัดอื่น ๆ นั้นแตกต่างกันไป หากไม่ไปพบนักกายภาพบำบัด หรือ ผู้มีความรู้เกี่ยวกับกล้ามเนื้อ และการออกกำลังกายโดยตรง ก็ต้องอาศัยการสังเกตของผู้ออกกำลังกายเอง *ควรระวังการยืดผิดวิธีอาจทำให้เกิดการบาดเจ็บได้* ถ้าไม่แน่ใจกลัวว่าจะทำไม่ถูก ก็ไม่ควรทำ แต่สามารถใช้ฝ่ามือ ถูกันให้อุ่น ๆ แล้ววางที่ต้นคอและบริเวณท้ายทอย โดยไม่ต้องนวด แต่ให้แรงกดบ้างเล็กน้อย ตามจุดที่มีอาการตึงและเมื่อย อย่างไรก็ดี ไม่ควรทำงานหน้าคอมพ์นานเกิน 3 ชั่วโมงต่อเนื่อง ถ้าเป็นไปได้ ควรพักสายตา และหาที่พิงหลัง+ต้นคอ ทุก 1- 1.5 ชั่วโมง |
|
2. ถ้าอาการไม่ดีขึ้น ควรไปพบแพทย์เพื่อรับการตรวจรักษาที่เหมาะสม เพราะอาจมีปัญหาที่กระดูกต้นคอชิ้นบน ๆ ที่ติดกับฐานกะโหลก หากมีอาการยึดติดจากการตึงตัวของกล้ามเนื้อ หรือการมีรูปร่างลักษณะคอผิดรูป ซึ่งอาจเกิดจากการมีท่าทางในการทำงานที่ไม่ถูกต้อง หากปล่อยให้เป็นอยู่นาน อาจทำให้มีอาการปวดศรีษะเรื้อรังได้ ร่วมกับเวียนหัว บ้านหมุน คลื่นไส้ ตาพร่ามัว เป็นต้น |
|
3. ควรยึดหลัก 20-20-20 นั่นคือ กะพริบ ตา 20 ที 5. นั่งหลังตรง ๆ อย่านั่งตัวงอจะทำให้เมื่อยกระดูกสันหลังได้
|
|
ที่มาของข้อมูลส่วนหนึ่ง |
|