ศาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช เป็นสถานที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งของ
เมืองจันท์ บ่งบอกถึงความผูกพัน
ของชาวเมืองนี้ที่มีต่อพระเจ้าตาก ตั้งอยู่บนถนนท่าหลวง
บริเวณหน้าค่ายตากสิน จังหวัดจันทบุรี เป็นอาคารรูปทรงเก้าเหลี่ยม
สร้างด้วยหินอ่อน หลังคาเป็นรูปพระมาลาหรือ
หมวกยอดแหลม สูงจากพื้นถึงยอด 16.9 เมตร ประดับด้วยลวดลายทอง
ยอดบนเป็นฉัตร 9 ชั้น
ภายในประดิษฐานพระบรมรูปของ
ของสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช
หล่อด้วยทองเหลืองรมดำ
ประทับนั่งทรงเมือง ผนังภายในเขียนลายไทยพุ่มข้าวบิณฑ์
ไว้อย่างสวยงาม


ศาลนี้สร้างจาก
ความศรัทธา เพื่อให้ชาวจันท์และ
คนในจังหวัดใกล้เคียงมาสักการะ
เพื่อความเป็นสิริมงคล
ในทุกวันที่ 28 ธันวาคม ของทุกปีซึ่งเป็นวันคล้าย
วันเสด็จขึ้นครองราชย์ของพระองค์ ทางศาลแห่งนี้ จะจัดให้มีการทำบุญ
ตักบาตรและถวายเครื่องราชสักการะ
เป็นประจำทุกปี เพื่อเป็นการน้อม
รำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ
ที่พระองค์ทรงกอบกู้เอกราชให้ แผ่นดินไทย

ศาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช เป็นสถานที่สำคัญของเมืองจันทบุรี
เสมือนเป็นศูนย์รวมจิตใจของ
ชาวจันทบุรี ที่แสดงถึงความศรัทธา และจงรักภักดีที่มีต่อ
สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช
สำหรับผู้ที่เดินทางมาถึงตัวเมืองจันทบุรีแล้ว ไม่ควรพลาดแวะสักการะเพื่อ
ความเป็นสิริมงคล และขอพร
ศาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช อยู่ในตัวเมืองริมถนนท่าหลวง
สามารถเข้าเยี่ยมชมสักการะได้ทุกวัน
ไม่มีวันหยุดและไม่เสียค่าธรรมเนียม ในการเข้าชม



ศุภวัฒน์เจ้าถิ่นบอกว่า
หากมาจันทบุรี ก็ต้องหาอาหาร
จันทบุรีทาน จะได้ถือว่ามาถึง
เมืองจันทบุรีแล้ว มื้อนี้ขอเป็นเจ้ามือ
เลี้ยงเพื่อน ๆ เถิด จาวหมู่ก็บอกว่า ศุภวัฒน์เสียสละเวลามาเป็นไกด์
พาพวกเราเที่ยวเมืองจันท์ ก็เกรงใจ
จะแย่อยู่แล้ว ศุภวัฒน์กลับบอกว่า ขอเลี้ยงต้อนรับเถอะไม่ได้เจอกัน
ตั้งแต่เรียนจบ วค.เชียงใหม่
ร่วม 40 กว่าปีแล้ว
จาวหมู่ก็ตอบเป็นเสียงเดียวกันว่า งั้นก็โอเค แต่ขอให้เลี้ยงมื้อนี้มื้อเดียว
ศุภวัฒน์ บอกว่า ได้เล้ย ดังนั้น ร้านจันทรโภชนา จึงเป็นเป้าหมาย
ที่ศุภวัฒน์พาไป เป็นร้านอาหาร
พื้นบ้านที่อยู่ใจกลางเมือง
เปิดมานานกว่า 50 ปี
ใครที่มา
จังหวัดจันทบุรี แล้วอยากรู้จัก
คนจันท์แท้ ๆ ต้องแวะมาลองลิ้ม
ชิมอาหารพื้นเมืองร้านจันทรโภชนา
(ต้องออกเสียงว่า จัน-ทอน-โภชนา)
อิอิ "วินยาน" ครูภาษาไทยเข้าสิง
รับรองว่ามาที่ร้านนี้แล้วจะไม่ผิดหวัง
มีอยู่ 2 สาขา สาขาแรกอยู่ใจกลางเมือง ที่ถนนเบญจมราชูทิศ คณะเรามาเที่ยว
แถวชุมชนเก่าริมน้ำ ก็จะใกล้กับสาขา
แรกนี้ ส่วนอีกสาขาหนึ่งไกลออกไปนิด
ไปทางท่าแฉลบ ตรงวัดป่าคลองกุ้ง ซึ่งเป็นสาขาที่กว้างขวาง ที่จอดรถ
สะดวกสบายกว่าสาขาแรก
และแล้วรถตู้ส่วนตัวของทัวร์น้ำหมาก
จันท์ ก็มาถึงร้านจันทรโภชนา พากันลงจากรถด้วยความหิวจัด
แต่ก็ไม่วายหยุดถ่ายรูปหน้าร้าน จากนั้นก็เดินแบบวางฟอร์มเข้าไป
ในร้านเห็นร้านตกแต่งสไตล์วินเทจ
สีขาว ดูสบายตาจนลืมหิว เฟอร์นิเจอร์และเครื่องใช้ไฟฟ้าและ
อื่น ๆ เป็นสไตล์วินเทจเช่นกัน เมนูอาหารของร้านเป็นอาหารที่
หากินได้ยากมาก มีเมนูที่นำผักผลไม้
พื้นเมืองมาดัดแปลงเป็นอาหาร
จานเด็ด พนักงานพูดเพราะ
บริการดีมากถึงมากที่สุด เอาใจใส่
ลูกค้า อธิบายอาหารต่าง ๆ ได้อย่าง เข้าใจ อิอิ ที่จริงเรายกให้เจ้าถิ่น
สั่งอาหาร และที่พนักงานอธิบาย
มานั่น ไม่ฟังหรอกมัวแต่เมาท์มอย
หอยทากไม่รู้จบ เสร็จก็ยกมาเล้ย ๆ

มาแล้ว ๆ
"หมูชะมวง"เป็นอาหารประจำจังหวัด
จันทบุรี สูตรต้นตำรับคนจันท์
เครื่องแกงเข้มข้นมาก
ฉันรีบเอาคลุกข้าวสวย สำหรับ
ข้าวสวยที่นี่เป็นแบบบุพเฟ่ต์
หัวละ15 บาท เป็นข้าวหอมมะลิหอม ๆ
นุ่ม ๆ กินได้ไม่อั้น อาหารตามมาติดๆ
"แกงส้มปลาน้ำดอกไม้ใส่ใบชะมวง"
น้ำแกงส้มเข้มข้น เปรี้ยวนำและ
ไม่หวานมาก ปลามีกลิ่นหอมสมชื่อ
ปลาน้ำดอกไม้ ใบชะมวงคล้าย
ใบมะม่วงมีรสเปรี้ยวแต่หอมกว่า
ไม่เหม็นเขียว รวม ๆ แล้วอร่อยรสชาติ
ดีมาก เป็นอาหารที่กินแล้วต่าง
ติด อกติดใจ
"แสร้งว่า" ก็อร่อยดีนะ
เห็นว่าเป็นสูตร มรว. คึกฤทธิ์ ปราโมช เป็นน้ำพริกเสริฟกับผักสด
"ถั่วฝักยาวผัดกะปิกุ้งแห้ง" เหมือนจะเป็นอาหารหน้าตาธรรมด๊า
ธรรมดา แต่รสชาติไม่ธรรมดาเลย เป็นการนำถั่วฝักยาวมาผัดกับกะปิ
คั่วจนหอมกะปิ กินพร้อมกุ้งแห้งทอด
กรุบกรอบที่ผัดมาด้วยกัน
ได้รสชาติเค็ม ๆ หวาน ๆ
“เส้นจันท์ผัดปู” ใช้น้ำปรุงผัดกับ
กับเส้นจันท์เหนียวนุ่มพร้อมปูตัวเล็ก ทอดกรอบใส่ปูมาให้ 5 ตัว เส้นจันท์ไม่เละเหมือนก๋วยเตี๋ยว
เส้นเล็กในกรุงเทพ ฯ บางร้านที่พอผัด
ออกมาแล้ว จะแฉะและเส้นเละ เส้นจันท์คลุกกับน้ำปรุงผัดไทย
รสชาติหวานนำ ทานกับถั่วงอก
ใบกุ่ยช่ายและแตงกวา ทางร้านมีน้ำปรุงผัดไทยใส่กระปุก
ขายด้วยค่ะปุกละ 75 บาท
ปุกใหญ่ทีเดียวแต่ไม่ได้ซื้ออ่ะ แบบว่า
กลัวห้ามใจไม่ไหวจะแอบกินน้ำปรุง
ในรถง่ะ (ในเป๋ามี 600 บาท
เสียดายตังค์)

“มัสมั่นไก่ทุเรียน” ใช้ทุเรียนแก่ที่ยังไม่ถึงกับสุก
หั่นชิ้นโตใส่แทนมันฝรั่งหรือมันเทศ ตัวน้ำแกงกับเนื้อไก่อร่อยเข้มข้น
ตามมาตรฐาน แต่เนื้อทุเรียน
นี่มันมากถึงมากที่สุดไม่มีกลิ่นทุเรียน
เลย แต่จะมัน ๆ อมหวาน คล้าย ๆกับ
เนื้อมันต้มแต่มันกว่ามาก

“ปลากะพงต้มระกำ” คล้ายต้มยำ
แต่ไม่ใส่ข่าตะไคร้และใช้รสเปรี้ยว จากระกำ จาวหมู่กินกันจนอื่มแปล้
เป็นที่เรียบร้อย พักท้องเมาท์มอย
หอยทากสักพักก็ได้เวลาเข้าที่พัก
ขอบคุณศุภวัฒน์ เอมโอช ที่เป็นเจ้าภาพ
มื้อแสนประทับใจครั้งนี้ อิ่มจังตังค์อยู่ครบ