ตอนที่ 4 ความมหัศจรรย์กลางทะเลตรัง “ถ้ำมรกต”

22 มกราคม 2557 หลังจากชมนกอินทรีย์ยักษ์
เป็นที่เรียบร้อยก็อำลาลังกาวี
กาวี  หมายถึง สีน้ำตาลแกมแดง
ดังนั้น ลังกาวีจึงหมายถึง
นกอินทรีย์สีน้ำตาลแกมแดง
ภาษามาเลย์ เรียก ลังกาวีว่า เฮอลัง
ทัวร์น้ำหมากเดินทางโดยเรือเฟอร์รี่กลับเมืองไทย
พอขึ้นฝั่งก็มีรถตู้ 2 คันมารับคณะทัวร์น้ำหมาก
ก่อนขึ้นรถคณะเราก็ทำพิธีอำลาไก้ด์
ที่พูดภาษามาเลย์เซีย
2 คน ไก้ด์ตาลกับไก้ด์อาร์ต

มุ่งสู่จังหวัดตรัง เข้าพักที่โรงแรมธรรมรินทร์

23 มกราคม 57 ไก้ด์ตูนพาพวกเราทัวร์น้ำหมาก
ไปลอดถ้ำมรกต ที่เกาะมุก
 ดำน้ำดูปะการังที่เกาะกระดาน
ลอดถ้ำเลเขากอบ และเล่นน้ำที่หาดทรายเกาะเชือก
ไปด้วยเรือลำนี้แหละค่ะ


ไปถึงท่าเรือ ปากเมง วันนี้ท้องฟ้าโปร่ง
สาว ๆ รวมทั้งฉันด้วย สุมาลีคนเดียวที่ไม่สาว
เพราะเอาพี่ปัญญาไปด้วย
ทุกคนต่างนุ่งทูพีชเตรียมเที่ยวเกาะ 4 เกาะ


ท่าเรือปากเมงที่เห็นหลังคาสีแดงลิบๆ โน่น
ท่าเรือปากเมง ตั้งอยู่ที่ ตำบลไม้ฝาด อำเภอสิเกา
จังหวัดตรัง
อยู่ห่างจากตัวเมือง 40 กิโลเมตร
เป็นที่รับ - ส่ง นักท่องเที่ยว
ที่เดินทางไปท่องเที่ยวตามเกาะต่าง ๆ ของทะเลต
รัง
ส่วนภูเขาที่เห็นอยู่ข้างหลังนั้น คือ เขาเมง
หรือเกาะเมง สัญลักษณ์ ประจำท่าเรือปากเมง




มุ่งหน้าสู่เกาะมุกเป็นอันดับแรก
เกาะมุกอยู่ด้านซ้ายมือ..สังเกตรูปร่างเกาะ
จะเหมือนผู้หญิงท้องนอนหงาย
เมื่อถึงเกาะมุก
โดยการนำของไก้ดตูนที่นำพวกเราเข้าถ้ำ
ก่อนที่จะลงจากเรือนักดำน้ำที่คอยดูความปลอดภัยให้เรา
จะให้เราสวมเสื้อชูชีพให้ดี
หางปลาของเสื้อชูชีพจะต้องรัดให้เรียบร้อย
คนข้างหลังอาจจะเหยียบตอนลงเรือได้
ถ้าต้องการไปถ่ายรูปในถ้ำ
ก็ให้ฝากกล้องให้ไก้ด์ตูน ใส่ถุงพลาสติกกันน้ำ
เข้าไปให้ ส่วนฉันฝากทั้งกล้องทั้งแว่นตาค่ะ

 

 


การลอยคอในน้ำลึกแห่งทะเลอันดามัน
ตอนแรกก็กลัวสุดขีด
ฉันเป็นลูกน้ำกว๊านพะเยา แต่ว่ายน้ำก็ไม่เป็น
ด้วยความเชื่อมั่นในไก้ด์
ไก้ด์บอกว่าเสื้อชูชีพไม่จมน้ำครับ ไม่ต้องกลัว
เรามีนักดำน้ำคอยช่วยเหลืออยู่หลายคน
เกาะเสื้อชูชีพ คนข้างหน้าไว้ปลอดภัย ไม่หลงครับ


จึงรวบรวมความกล้า ไต่บันไดเรือลงไป
แล้วโดดลงทะเล พร้อมเสียงหวีดร้อง
ด้วยความตื่นเต้นสุดขีด
ของฉันเอง (คนอื่นไม่ร้องซักคน )
เท้าลอยขึ้นเหนือน้ำ
ว้ายๆๆ ไก้ด์ตูน ตะโกนบอก ทำขาให้ตรง
จิกปลายเท้าลงน้ำ
รีบตั้งสติ  ในวินาทีนั้น ฉันต้องรีบทำตาม
เออตัวตรงแล้ว นักดำน้ำบอกให้ถีบจักรยาน
เออ....... ถีบจักรยานฉันถีบเป็นนี่นา
รีบทำตาม โอ้...สุดยอด ตัวตรงแล้วเคลื่อนไปข้างหน้า
ว้าว ๆ สนุกสุดขีด ถ้าหยุดถีบจักรยาน
เท้าก็จะลอยขึ้นเหนือน้ำ
ฉันถีบเอา ๆ ไม่สนใจแล้วว่า
เท้าฉันสูงกว่าพื้นน้ำทะเลตรังกี่เมตร

วัยรุ่นเยี่ยงฉันอยู่ระหว่าง 64 - 67 ขวบ
เกาะหลังของกันและกันต่อแถว
มองการต่อแถวแล้ว ก็อดที่จะยิ้มไม่ได้ (หายกลัวแล้ว)
เพราะการต่อแถวก่อนค่อยๆ เข้าไปในถ้ำ
ไม่ต่างจากการตอนเด็กที่ฉันและเพื่อนๆ
สมัยประถมต่อแถวกันเพื่อเล่นรีรี ข้าวสาร
เฮะ เฮะ ลอยคอง่ายมาก
ทุกคนต่างมีหน้าที่เพียงจับเสื้อคนหน้าให้แน่น
แล้วปั่นจักรยานใต้น้ำส่งตัวไปด้านหน้า
แต่อย่าปั่นแรง อารีย์อยู่ข้างหลังฉัน
แกคงปั่นแรง เข่าก็โดนก้นฉัน บ่อย ๆ
จนต้องบอกอารีย์ ๆ เข่าโดนก้น ๆ พวกก็ปั่นเอา ๆ
อารีย์ๆ ริดสีดวงแตกหมดแล้วววว พวกถึงได้สติ 5555


ถ้ำมรกต หรือเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า ถ้ำน้ำ
ตั้งอยู่บริเวณ เกาะมุก ตำบลลิบง อำเภอกันตัง
จังหวัดตรัง
มีความยาวทั้งหมด 80 เมตร ตามประวัติกล่าวกันว่า
กลุ่มราษฎรท้องถิ่นได้เข้ามา ถ้ำมรกต ครั้งแรก
เพื่อหารังนกนางแอ่น
เนื่องจากในอดีตถ้ำจะมีนกนางแอ่น
อาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก
และต่อมาโจรสลัดจะนำสิ่่งของ
ที่ปล้นมาได้ซุกซ่อนไว้ในที่แห่งนี้ระยะหนึ่ง
แล้วจึงจะนำของดังกล่าวออกไป เมื่อมองดูรอบ ๆ
เหมือนกับเรายืนอยู่ในปล่องขนาดใหญ่
ซึ่งเกิดจากการยุบตัวของหินปูนในอดีต
ทางเข้ามีลักษณะเป็นปากถ้ำเล็กๆ
เมื่อทัวร์์น้ำหมาก ลอดถ้ำอันมืดมิด
ทุกคนเงียบกริบไม่มีเสียงใด ๆ ลอดผ่านไรฟันเลย
แต่....ก่อนที่ความกลัวจะเข้ามาครอบครอง
หัวใจดวงน้อย ๆ ของพวกเรา
ทันใดนั้น เสียงเพลงดังขึ้น
ต้นเสียงมาจากอุ๊
“สีดำเหลืองงามประเทืองเทิดเกียรติศักดิ์
.....หัวใจทุกดวงคึกคักขึ้นทุกคน ร้องเพลงนี้
ด้วยความฮึกเหิม ลืมความมืด ลืมความกลัวเสียสิ้น

ร้องเพลง ผ่านเส้นทางคดเคี้ยวตื่นเต้นไปตามสายน้ำ
ภายในถ้ำ พอร้องเพลงได้สัก 10 นาที ก็พ้นปากถ้ำ
แสงอาทิตย์ทำมุมพอเหมาะ เห็นเป็นหาดทรายเล็กๆ สีขาว
เงยหน้ามองดูด้านบนของถ้ำจะปรากฏเห็นภาพ
ภูผาสูงลับฟ้า ล้อมรอบทั่วทิศ
จะมีต้นไม้นานาพันธุ์มากมาย
บริเวณเวิ้งของถ้ำจะกลายเป็นสีเขียวมรกตงดงาม
ประหนึ่งจิตรกรรมแห่งธรรมชาติ ที่ได้บรรจงสร้าง
ให้มวลมนุษย์ได้ชื่นชม เป็นภาพที่ปรากฎ
ได้สัมผัสถึงความตื่นตาตื่นใจ
เป็นความมหัศจรรย์ที่ธรรมชาติทางทะเลปั้นแต่งไว้
อย่างน่าทึ่ง และมีแห่งเดียวที่ท้องทะเลตรัง

เราชื่นชมประมาณ 30 นาทีเราเกาะหลังกัน
ออกมาด้วยเสียงเพลง“จะขอก็รีบขอ”
ทำให้นักท่องเที่ยวคณะอื่นที่เกาะแถวสวนทางกับพวกเรา
ร้องตามกันเป็นแถว
เสียงเจื้อยแจ้ว ในความมืดมิดในถ้ำ
ทำให้นักท่องเที่ยวคงอยากยลใบหน้าของพวกเรายิ่งนัก
(คิดเอาเอง) สีหน้าของพวกเราทุกคนที่ออกมา
มีแต่รอยยิ้มละพูดถึงความสวยงามภายในถ้ำ
อย่างมีความสุข
ฉันไม่ได้บอกเพื่อน ๆหรอกว่า อีกสาเหตุหนึ่งที่ฉันกลัว ก็เพราะการได้ทราบถึงเหตุการณ์ครั้งที่ประเทศไทย
ต้องเจอกับ สึนามินั่นเอง เหตุการณ์ครั้งดังกล่าว
นักท่องเที่ยวที่กำลังชมความงามภายในถ้ำมรกต
เสียชีวิต แต่เมื่อได้เห็นความงามของถ้ำมรกตแล้ว
ทำให้ฉันลืมความกลัวไปเสียสิ้น
มีแต่ความประทับใจเข้ามาแทนที่
โอ้ “ถ้ำมรกตและผืนทราย”


ไปดำน้ำดูปะการังที่เกาะเชือก