ตอนที่ 3 ชมพิพิธภัณฑ์ของ ดร.มหาธีร์ โมฮัมหมัด

หากใครไปเยือนเกาะลังกาวี ก็ไม่ควรพลาดที่จะไปเยี่ยม
ชมพิพิธภัณฑ์ของสะสม ของท่าน Dr. Mahatir Mohamad
เป็นพิพิธภัณฑ์ที่ภายนอกดูธรรมดา มาก ๆ

แต่ภายในกลับดูยิ่งใหญ่อลังการเกินกว่าจะบรรยาย
ข้างในเป็นบรรยากาศแบบโลกอาหรับ
โดยเฉพาะส่วนกลางของอาคารที่เป็นรูปวงกลม
มีบันไดวนจากชั้นบนลงไปจนถึงชั้นล่าง
หลังคาอาคารตรงบริเวณนี้ใช้กระจกที่มีลวดลาย
ทำให้เห็นแสงสีของกระจกแผ่นเล็ก ๆ  ได้อย่างวิจิตร
สิ่งของที่จัดแสดงมีมากมายจนดูไม่ครบถ้วน

 


Dr. Mahatir Mohamad อดีตนายกรัฐมนตรีและรัฐบุรุษ
ของประเทศมาเลเซีย ผู้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี
มายาวนานถึง 22 ปีหรือระหว่างวันที่
16 กรกฎาคม พ.ศ. 2524 ถึง 31 ตุลาคม พ.ศ. 2546
พิพิธภัณฑ์ของดร.มหาธีร์   ที่เกาะลังกาวี
เป็นสิ่งพิสูจน์ถึงการเป็นบุคคลตัวอย่าง
ที่สร้างพิพิธภัณฑ์ไว้เพื่อเก็บรักษาทรัพย์สมบัติของตน
และของภริยาที่ได้รับขณะดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี

 

เพื่อมอบให้สมบัติของสาธารณะ
ของเหล่านี้ได้รับจากบุคคลหรือบริษัทห้างร้าน
รวมทั้งได้รับจากผู้นำของประเทศต่าง ๆ ที่ได้ไปเยือน
ทั้งหมดแล้ว    มีจำนวนหลายพันชิ้น มีทั้งของชิ้นเล็ก ๆ
ไปจนถึงของใหญ่ๆเช่น รถยนต์ที่มีราคาแพง
เหตุที่มหาธีร์มอบให้เป็นสมบัติสาธารณะด้วยเหตุผลที่ว่า
“สิ่งของทั้งหมดนี้ได้มอบให้กับนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย
ไม่ใช่เป็นการมอบให้กับ ดร.มหาธีร์ หรือภริยา
ดังนั้นของทั้งหมดจึงเป็นของประชาชน
และเป็นสมบัติของประเทศ"

 

นี่คือ   ปณิธานของอดีตนายกรัฐมนตรี
ที่ถือว่าเป็นขวัญใจของประชาชน
ขณะเดียวกันก็ได้รับตำแหน่ง
"รัฐบุุรุษของประเทศ” อีกด้วย
ไก้ด์ลูกตาล   เล่าให้คณะทัวร์น้ำหมากฟังว่า
พิพิธภัณฑ์นี้น่าจะตั้งอยู่ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์
หรือเมืองหลวง แต่ดร.มหาธีร์ เป็นชาวเมืองจากรัฐเคดาห์
ซึ่งรวมถึงเกาะลังกาวีนี้ด้วย

 

 

 

เท่ากับว่าสร้างพิพิธภัณฑ์ไว้ที่บ้านเกิดของ ตนเอง
ของที่ระลึกที่จำได้ติดตาก็คือ
เครื่องแก้วคริสตัลและภาชนะเคลือบ
ที่ดูแล้วก็น่าจะมีราคาแพง ของประเภทนี้ก็มีมากจนละลานตา
อ่านป้ายกำกับแล้วส่วนใหญ่เป็นของที่ระลึกจากประเทศต่างๆ
บางชิ้นได้รับจากพระราชินีจากอังกฤษ

 


พิพิธภัณฑ์ของ ดร.มหาธีร์ โมฮัมหมัด
เป็นที่รวบรวมสิ่งของที่ ดร.มหาธีร์ได้รับขณะดำรงตำแหน่ง
นายกรัฐมนตรีตลอดระยะเวลา 20 กว่าปี
ล้วนเป็นของที่ระลึกอันล้ำค่าจากนานาประเทศทั่วโลก
ประมาณกว่า 2,500 ชิ้น ซึ่งแต่ละชิ้นมีความสวยงามโดดเด่น
และบ่งบอกถึงเอกลักษณ์ของประเทศนั้น ๆ ได้เป็นอย่างดี

 



เช่น ภาพเขียน ภาพวาด เครื่องปั้นดินเผา เครื่องแก้วคริสตัล
ตุ๊กตา หรือแม้เครื่องถ้วยเบญจรงค์ที่ท่่านได้รับจาก
ประเทศไทยนั่นเอง นอกจากนี้ยังมีเครื่องใช้ส่วนตัว
เช่น กริชประจำกาย เครื่องราชอิสริยาภรณ์
รถจักรยาน   รถแข่งฟอร์มูล่าวัน เป็นต้น

 

 

ภายในอาคารแต่ละชั้นจะไม่มีบันไดเป็นขั้น ๆ
แต่จะเป็นทางเดินที่มีลักษณะเป็นทางเดินวน
ไล่ระดับที่ละนิด ๆ เพื่อรองรับเด็ก คนชรา
และคนพิการโดยเฉพาะ

 

 

ซึ่งผู้ที่เดินเที่ยวชมภายในพิพิธภัณฑ์แห่งนี้
จนครบทุกชั้นทุกอาคาร
ทัวร์น้ำหมากแต่ละคนแทบจะไม่มีความรู้สึกว่าเมื่อยขา
หรือปวดเข่าแต่อย่างใด เนื่องจากทางเดินวนภายในอาคาร
ซึ่งได้รับการออกแบบโดยเฉพาะ

สำหรับเงินรายได้จากการเปิดให้เข้าชมพิพิธภัณฑ์
ท่านมหาธีร์ ได้นำไปเป็นเงินช่วยเหลือทุนการศึกษา
แก่เด็กยากจนบนเกาะลังกาวี (ที่นับถือศาสนาอิสลาม)
คงจะพบเห็นได้น้อยคนนักสำหรับผู้นำประเทศ
ที่จะเสียสละสิ่งของที่ได้รับมอบจากนานาประเทศ
ในขณะดำรงตำแหน่ง

 

เนื่องจากท่านมหาธีร์
มีความคิดว่าสิ่งของเหล่านี้ “เป็นสมบัติของประเทศ
ล้วนแล้วได้มาจากการได้รับเกียรติให้ดำรงตำแหน่ง
บุคคลสำคัญของประเทศ”
และผู้ให้ ให้ในฐานะที่เป็นผู้นำประเทศ”
ไม่ใช่เป็น “สมบัติส่วนตัว”

 

ถือว่าเป็น “สมบัติของชาติ”
ดังนั้นท่านจึงได้มอบคืนให้เป็นสมบัติของชาติ
โดยการสร้างพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ขึ้นมา นับว่าดร.มหาธีร์
ประสบความสำเร็จเป็นอย่างสูงตลอดระยะเวลาที่ดำรงตำแหน่ง
ทำให้ประเทศมาเลเซียมีการพัฒนาอย่างก้าวกระโดด
ประชาชนอยู่ดีกินดี
มีสวัสดิการสังคมที่มั่นคง
ตอนที่ 4 ความมหัศจรรย์กลางทะเลตรัง “ถ้ำมรกต"